ห้องครัว นับเป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญภายในบ้าน รองลงมาจากห้องนอน และห้องนั่งเล่นเลย เพราะห้องครัวไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่ทำอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่สำหรับแฮงค์เอ้าท์ นั่งเล่น หรือแม้กระทั่งทำงาน ที่สำคัญ ห้องครัวยังเป็นสถานที่ในการสร้างช่วงเวลาดีๆ กับคนในครอบครัวอีกด้วย ฉะนั้น เราจึงควรให้ความสำคัญกับการออกแบบวางผังพื้นที่ห้องครัว เพื่อให้ห้องครัวเป็นสถานที่ที่คุณสามารถเข้ามาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ทำไมบริษัทรับทำครัวบิ้วอินส่วนใหญ่ จึงให้ความสำคัญกับการออกแบบวางผังพื้นที่ห้องครัว ?
ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่าบริษัทที่รับทำบิวอินห้องครัวส่วนใหญ่ จะมักให้ความสำคัญกับการออกแบบวางผังพื้นที่ห้องครัวเป็นอย่างมาก เพราะการเลือกออกแบบวางผังพื้นที่ห้องครัวก่อนลงมือทำ จะทำให้คุณได้ห้องครัวที่มีความเหมาะสมกับรูปแบบการใช้งาน คุณจึงสามารถใช้งานห้องครัวได้อย่างเต็มศักยภาพ ถูกต้องตามหลักสุขลักษณะ สะดวกสบาย และมีความปลอดภัยในการใช้งานนั่นเอง
ทั้งนี้ การออกแบบวางผังพื้นที่ห้องครัว จำเป็นที่จะต้องใช้หลักการเข้ามาช่วย ซึ่งหลักการการออกแบบวางผังพื้นที่ห้องครัว มีดังต่อไปนี้
หลักการออกแบบห้องครัวให้เหมาะสมกับการใช้งาน
หลักการออกแบบห้องครัวให้เหมาะกับการใช้งาน มี 7 หลักการด้วยกัน คือ
- หลักการกำหนดตำแหน่งที่ตั้งห้องครัว : ตำแหน่งที่ตั้งของห้องครัวไม่ควรอยู่ใกล้กับส่วนที่เป็นมุมพักผ่อน เช่น ห้องนั่งเล่น หรือมุมที่ต้องการความสงบ เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน ฯลฯ เนื่องจากการประกอบอาหารนั้นอาจมีเสียงและกลิ่นที่เกิดจากการประกอบอาหารรบกวนได้
- หลักการออกแบบแสงสว่างของห้องครัว : หากเป็นไปได้ควรเลือกติดตั้งหน้าต่างห้องครัว ในมุมที่แสงธรรมชาติสามารถส่องผ่านเข้ามาจากหน้าต่างได้ ซึ่งนอกจากแสงธรรมชาติจะให้แสงสว่างที่นุ่มนวลสบายตาแล้ว การมีแสงสว่าง และการมีหน้าต่างระบายอากาศที่เหมาะสมจะทำให้ครัวไม่มีกลิ่นเหม็นอับ และไม่มีปัญหาเรื่องความอับชื้น อีกทั้งยังให้อุณหภูมิความร้อนที่สามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้ดีอีกด้วย
- หลักการถ่ายเทอากาศของห้องครัว : ในกรณีที่คุณมีบ้านเป็นของตนเอง คุณสามารถใช้หลักการเดียวกับการออกแบบแสงสว่างของห้องครัวได้เลย แต่หากคุณอยู่ในอาคารชุดที่มีพื้นที่จำกัด หรืออาคารสาธารณะ เช่น อพาร์ทเม้นท์ คอนโดมิเนียม โรงแรม ฯลฯ อาจมีช่องเปิด หรือหน้าต่างในพื้นที่ครัวค่อนข้างน้อย หรืออาจไม่มีช่องเปิดเลย จึงจำเป็นต้องติดตั้งระบบระบายอากาศเพิ่มเติม เพื่อช่วยดูดควัน หรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกไปยังด้านนอกอาคาร และช่วยถ่ายเทอากาศได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดความอับชื้น กลิ่นเหม็นอับ และการสะสมของเชื้อโรคได้ดียิ่งขึ้น
- หลักการออกแบบตกแต่งพื้นห้องครัว : หลักการออกแบบตกแต่งพื้นห้องครัวควรออกแบบให้ลดระดับต่ำกว่าพื้นห้องอื่นๆ ประมาณ 5-10 ซม. และจะต้องมีองศาพื้นที่ลาดเอียงเล็กน้อย ซึ่งจะช่วยให้การระบายน้ำสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น การออกแบบพื้นห้องครัวในลักษณะนี้ก็เพื่อความสะดวกเวลาทำความสะอาดพื้น หรือล้างพื้น เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำที่ใช้ในการล้างทำความสะอาดไหลไปเปรอะเปื้อนห้องอื่นๆ
- หลักการออกแบบตกแต่งผนังห้องครัว : การออกแบบตกแต่งผนังห้องครัวควรใช้สีน้ำมัน หรือสีอะคริลิคกึ่งเงาแทนการใช้สีน้ำพลาสติกสำหรับทาภายในทั่วไป เนื่องจากสามารถทำความสะอาดคราบเขม่า คราบควัน ที่เกิดจากการปรุงอาหารได้ง่ายกว่าสีทาบ้านทั่วไป
- หลักการออกแบบตกแต่งท็อปเคาน์เตอร์ครัว : การออกแบบตกแต่งท็อปเคาน์เตอร์ครัวควรมีความลึกอย่างน้อย 60 ซม. และสูงจากพื้นถึงท็อป 90-105 ซม. ในบริเวณขอบควรลบมุมขอบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้งานเวลาเกิดการชน หรือเกิดการกระแทกโดยไม่ตั้งใจ และที่สำคัญท็อปเคาน์เตอร์ครัวควรมีพื้นผิวมัน เพื่อความสะดวกในการกำจัดคราบสกปรกจากการปรุงอาหาร
- หลักการออกแบบฝ้าเพดานห้องครัว : การออกแบบฝ้าเพดานห้องครัวควรมีความสูงจากพื้นห้องถึงฝ้าเพดานไม่น้อยกว่า 2.5 เมตร เพื่อความสะดวกในการถ่ายเทอากาศ และวัสดุที่ใช้ควรเป็นแบบแผ่นเรียบที่ดูแลทำความสะอาดได้ง่าย เช่น ยิปซั่มบอร์ด ไฟเบอร์ซีเมนต์ เป็นต้น
ท้ายนี้ หากคุณกำลังมีแพลนที่จะออกแบบตกแต่งและบิ้วอินห้องครัวใหม่ ให้เราบริษัทรับทำครัวบิ้วอิน USFurnish สรรสร้างบ้านในฝันให้กับคุณเลย คุณจะได้พบกับประสบการณ์การใช้บริการที่ดีที่สุด ทั้งในเรื่องของวัสดุที่มีคุณภาพ การทำงานแบบครบวงจร ไปจนถึงการบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยมจากเรา